Translate

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

วุ้นกะทิใบเตย






วุ้นกะทิใบเตย
สูตรการทำวุ้นกะทิใบเตย สูตรนี้น่าลองมากเลยค่ะง๊ายง่ายทำกินทำขายได้นะคะ!!!
ส่วนผสม หน้าวุ้นกะทิ
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 1/2 ถ้วย
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ไม่ชอบหวาน ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ผสมน้ำกับวุ้นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟ ความร้อนปานกลาง เคี่ยววุ้นให้ละลาย...
ใส่น้ำตาล เกลือ เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน ๆ 10 นาที แล้วเติม กะทิ เคี่ยวต่ออีก 5 นาที ปิดไฟ ยกลง...
... นำไปหล่อในน้ำร้อนเพื่อเตรียมไว้สำหรับหยอดหน้า
ส่วนผสม ตัววุ้นน้ำมะพร้าว / น้ำใบเตย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
น้ำใบเตย/น้ำมะพร้าว 2 ถ้วย
ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย ไม่ชอบหวาน ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
... ผสมน้ำเปล่ากับวุ้นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟ ความร้อนปานกลาง เคี่ยววุ้นให้ละลาย
... ใส่น้ำตาล เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน ๆ 10 นาที แล้วเติมน้ำใบเตย เคี่ยวต่ออีก 5 นาที ปิดไฟ ยกลง..
... นำไปหยอดใส่พิมพ์ เหลือขอบพอประมาณ
... หยอดหน้าวุ้นกะทิ ตามลงส่วนบนเพื่อให้วุ้นเชื่อมติดกัน
... เมื่อวุ้นแข็งตัว จึงแกะออกจากพิมพ์ รับประทานได้
ขอบคุณข้อมูลสูตรจาก เพจโครงการอนุรักษ์ขนมไทย
เครดิตภาพเว็บ http://www.makercakehouse.com/…/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89…

ขนมหน่อไม้






ขนมหน่อไม้
วิธีทำขนมหน่อไม้ ขนมไทยๆที่ไม่ค่อยมีขาย
สูตรการทำขนมหน่อไม้ ซึ่งหลายคนอาจจะส่งสัยว่ามีเมนูนี้ด้วยหรอ? คำตอบคือมีแน่นอนค่ะ ขนมหน่อไม้เป็นขนมไทยที่ปัจจุบันนี้หาทานได้ยากมาก การทำจะคล้าย ๆ กับการทำขนมกล้วย แต่จะให้รสสัมผัสเป็นเนื้อหน่อไม่มัน ๆ อร่อย ๆ ไปดูวิธีการทำกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนผสม
1. หน่อไม้สุก 300กรัม
2. หัวกะทิ 200 กรัม
3. น้ำตาลปีป 40 กรัม
4. น้ำตาลทราย 90-120 กรัม(แล้วแต่ความชอบ)
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
7. แป้งมัน 40 กรัม
8. แป้งท้าวยายม่อม 50 กรัม
9. มะพร้าวทึนทึกขูด 100 กรัม
วิธีทำ ขนมหน่อไม้
1. นำหน่อไม้มาปอกและสับเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่เกลือลงไปและขยำ วิธีนี้จะช่วยให้หน่อไม้ไม่ขมและนิ่มอีกด้วย
3. จากนั้นนำหน่อไม้ไปล้างให้สะอาด ซัก 2-3 น้ำ แล้วจึงนำไปต้ม ใส่น้ำตาลเพิ่มหากอยากให้หม่อไม้หวานขึ้น
4. เมื่อหน่อไม้สุกแล้วนำขึ้นพักไว้
5. ขูดมะพร้าวทึนทึก เสร็จแล้วพักไว้ค่ะ
6. จากนั้นใส่แป้งแป้งมัน ข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อม ลงไปในภาชนะ จากนั้นใส่กะทิลงในแป้งแล้วนวด ใส่พอแค่แป้งนวดได้ ใช้เวลานวดประมาณ15นาที นวดจนแป้งเหนียว หนึบ หนับ
7. เมื่อนวดแป้งจนได้ที่แล้ว ใส่เกลือ น้ำตาลทราย น้ำตาลปิ๊บ และกะทิที่เหลือลงไป
8. จากนั้นจะใช้มือคนส่วนผสมให้เข้ากัน หรือจะใช้ตะกร้อมือตีจนส่วนผสมเข้ากันก็ได้
9. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้ใส่เนื้อหน่อไม้ลงไป
10. คนให้เนื้อหน่อไม้เข้ากันกับเนื้อแป้ง แล้วจึงใส่เนื้อมะพร้าวตามลงไป
11. คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี
12. ตักตัวขนมใส่ภาชนะหรือใบตอง เตรียมไปนึ่ง
13. จากนั้นนำขนมไปนึ่งใช้เวลาซัก 15 นาทีหรือจนกว่าขนมจะสุก เมื่อขนมสุกแล้วก็จะได้ ขนมหน้อไม้
Cr. สูตรอาหารและภาพ http://pantip.com/topic/33964143

ขนมเล็บมือนาง...ขนมด้วง






ขนมเล็บมือนาง...ขนมด้วง
ส่วนผสมตัวขนมเล็บมือนาง
แปังข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แปังท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน 1ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
ส่วนผสมอี่น ๆ
มะพร้าวขูดขาว 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
งาดำงาขาวคั่ว 2 ช้อนโตะ
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำขนมเล็บมือนาง ขนมไทย
1. คลุกมะพร้าวกับเกลือเข้าด้วยกัน นำไปนึ่งไฟกลาง 5- 10 นาที
2. ผสมแปังนวลเข้าด้วยกันพักไว้
3. ผสมแปังทั้ง 3 ชนิด เข้าด้วยกัน ค่อยๆ ใส่น้ำทีละน้อยลงไปจนหมด ใส่กระทะทองไว้
4. นำไปกวนด้วยไฟกลาง จนแป้งจับตัวเป็นก้อน ยกลงใส่ในภาชนะที่มีแป้งนวล นวดให้แป้งเนียนเข้ากันดี
ใส่สีอ่อนๆ ตามชอบ ปั้นให้เป็นตัวขนมยาวประมาณครึ่งนิ้ว หัวท้ายแหลม พักไว้
5. ตั้งกระทะใส่น้ำปูนใส พอน้ำเดือดให้นำตัวขนมที่เตรียมไว้มาต้ม พอขนมลอยขึ้นก็ตักใส่น้ำเย็น เทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ คลุกด้วยมะพร้าวที่เตรียมไว้
6. ผสมงาทั้ง 2 ชนิด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นำไปบดในครกพอเข้ากัน พักไว้ พักไว้
7. นำหัวกะทิตั้งไฟ 2 นาที ยกลง
8. เมี่อจะเสิร์ฟ ตักขนมเล็บมือนางใส่จาน ราดหัวกะทิ โรยงาที่เตรียมไว้ เสิร์ฟได้ทันที
Cr. สูตรอาหาร http://baankhanom.blogspot.com/2012/06/blog-post_18.html
Cr. ภาพอาหาร http://natcha09074.blogspot.com/

ขนมปลากริมไข่เต่า




ขนมปลากริมไข่เต่าสูตรสำหรับทำกินทำขายเป็นอาชีพสร้างรายได้
ส่วนผสม ขนมปลากริมไข่เต่า
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 5 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1ช้อนชา
น้ำเล็กน้อย
วิธีทำ ขนมปลากริมไข่เต่า
ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ผสมน้ำและน้ำปูนใส นวดพอปั้นได้ แบ่งแป้งออกเป็นสองส่วน ตัวปลากริมปั้นแหลมหัวท้ายมากๆ ไข่เต่ารีเล็กน้อย
ตั้งน้ำให้เดือด นำแป้งแต่ละส่วนต้มสุกลอยช้อนขึ้นใส่ในน้ำเย็น ตักขึ้นพักไว้
เอาหัวกะทิตั้งไฟให้เดือด ยกลง
กะทิที่เหลือแบ่งออกเป็นสองส่วน, ส่วนที่หนึ่ง ผสมกับน้ำตาลปี๊บตั้งไฟให้เดือด นำตัวปลากริมที่เตรียมไว้ใส่ พอเดือด ยกลง, ส่วนที่สอง ผสมเกลือป่นให้มีรสเค็มนิดหน่อย ใส่แป้งไข่เตาลงไป พอเดือด ยกลง
เวลาจัดเสิร์ฟจัดทั้งสองอย่าง ให้สีแดงอยู่ชั้นล่าง สีขาวอยู่ชั้นบนราดหัวกะทินิดหน่อย

ขนมไข่หงส์








ขนมไข่หงส์ ขนมอร่อยของเมืองเถิน..ทำกินทำขายได้สำหรับคนว่างงานยึดเป็นอาชีพได้ค่ะ
ส่วนผสม ขนมไข่หงษ์
ตัวเปลือก
เผือกนึ่งสุกยีละเอียด 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
น้ำกะทิคั้นข้น 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอด
ไส้ขนม
ถั่วเขียวซีกนึ่งสุกบดละเอียด 2 ถ้วยตวง
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียวเหลือง 1/4 ถ้วยตวง
เกลือ น้ำตาล สำหรับปรุงรส
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำสำหรับเคลือบ
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ ขนมไข่หงษ์
นวดเผือก แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า หัวกะทิเข้าด้วยกันจนนุ่มมือ อย่าให้เปียกหรือแห้งมากเกินไป ถ้าเปียกเวลาปั้นให้แตะแป้งแห้งเป็นนวล
กระทะตั้งไฟใส่น้ำมัน 1-2 ช้อนโต๊ะ นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกลงผัดจนหอม ใส่ถั่วบดลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ และพริกไทยป่น ชิมให้รสจัด ใส่หอมเจียวผัดให้แห้ง ปั้นได้ ทิ้งไว้พออุ่น ปั้นเป็นลูกกลมประมาณหัวนิ้วมือ พักไว้
นำแป้งที่นวดไว้มาแผ่เป็นแผ่นกลมหุ้มไส้ถั่วที่ปั้นไว้ให้มิด คลึงเบาๆให้กลม นำไปทอดให้เหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ทิ้งไว้ให้เย็น
กระทะที่ทอดขนมไว้ เทน้ำมันออก ตั้งไฟ ใส่น้ำตาลลงไป เติมน้ำเล็กน้อย ใช้ไฟอ่อน ผัดสักครู่จนน้ำตาลละลายหมดและเหนียว นำขนมที่ทอดสุกแล้วลงผัดให้น้ำตาลจับกับขนม ตักขึ้นทิ้งไว้ให้เย็น น้ำตาลจะตกผลึกจับกับขนม

ลูกตาลลอยแก้ว



ลูกตาลลอยแก้วสูตรอร่อยสดชื่นค่ะ..เลิกงานเหนื่อยๆสำหรับคุณแม่บ้านอยากเอาใจสวามีและลูกๆที่บ้าน
ส่วนผสมและสัดส่วน
1. ลูกตาล 1 ก.ก.
2. น้ำตาลทราย 500 กรัม
3. น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง( ครึ่งหม้อ)
4. ใบเตยเพิ่มความหอม 3 - 4 ใบ
วิธีปรุง
1. ล้างลูกตาล และปลอกเปลือกสีน้ำตาลออกให้หมด แนะนำให้ใช้ช้อนสังกะสีในการปอกเพราะจะไม่กินเนื้อลูกตาลมาก ปอกง่ายกว่าค่ะ
2. เวลาหั่นลูกตาลนั้นมีเทคนิคนิดหนึ่งนะค่ะ คือเราจะหั่นโดยไม่ใช่เขียง โดยเอาลูกตาลวางในมือแล้วค่อยๆ หั่นตามขวางเหนือหม้อที่เราจะต้มลูกตาล เพื่อให้น้ำลูกตาลยังอยู่ในหม้อ คงความหอมหวานของลูกตาลไว้ได้เป็นอย่างดี (แต่ถ้าใครไม่มั่นใจก็ค่อยๆหั่นแล้วเทใส่หม้อไว้ก็ได้จร้า)
3.ต้มน้ำเชื่อม โดยต้มน้ำรอจนเดือด(ใช้น้ำลูกตาล หรือผสมน้ำลูกตาล) ใส่น้ำตาล และใบเตยลงไป คนให้น้ำตาลละลายจนหมด อย่าให้นอนก้นหม้อจะไหม้นะค่ะ กรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ได้น้ำเชื่อมที่ใสน่ากิน
3. ใส่เนื้อลูกตาลลงไปต้ม รอจนน้ำเชื่อมเดือดอีกครั้งปิดไฟได้เลยค่ะ
4. เวลาจะกินก็ตักน้ำแข็งทุบละเอียดๆหน่อยใส่ลงไป รับรองว่าชื่นใจคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลย
เคล็ดลับน่ารู้
ถ้าลูกตาลลูกไหนแก่ หรือแข็งก็หั่นชิ้นบางๆหน่อย เวลาต้มออกมาจะได้นิ่มเคี้ยวง่ายค่ะ
ขอบคุณข้อมูลสูตรจากเว็บ
 http://th.openrice.com/…/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0…/165


เครดิตภาพ จากเว็บครัวไกไกลบ้าน
 http://kruaklaibaan.com/viewtopic.php?t=26482&p=378523

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

กาแฟโบราณ



@@มุมอนุรักษ์เครื่องดื่มไทย@@
"กาแฟ โอเลี้ยง ยกล้อ กาแฟโบราณ ฯ"
...ทำกินเองที่บ้านก็ได้ ทำขายเป็นอาชีพเสริมก็มีรายได้เพิ่ม...รวยๆๆๆ

วิธีการชงกาแฟ โอเลี้ยง ยกล้อ กาแฟโบราณ...

สูตรชงเนสกาแฟร้อน
ข้อมูลจาก " Thai foods and Bakery's " Facebook Fanpage

เนสกาแฟ 2 ช้อนชา
คอฟฟี่เมต 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน
นมข้นหวาน 2 ช้อนชา (อาจจะเพิ่มตามเหมาะสมถ้าชอบหวาน)
เติมน้ำ 2/4 แก้ว
ใส่นมสดไม่ต้องคนเพราะคนทานจะคนเอง
**********************************************
สูตรชงเนสกาแฟเย็น
เนสกาแฟ 2 ช้อนชา
คอฟฟี่เมต 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เติมน้ำ 3/4 แก้ว
นมข้นหวาน 2 ช้อนชา
คนให้เข้ากันเทใส่น้ำแข็งโรยนมสด
*********************************************
สูตรชงกาแฟโบราณร้อน
เทน้ำกาแฟครึ่งแก้ว
นมข้น 2 ช้อนชา
เทนมสดใส่ลงไป
ไม่ต้องคน เสิร์ฟเลย

*********************************************
โอเลี้ยง

ส่วนผสม (สำหรับ 2-3 เสิร์ฟ)
ผงโอเลี้ยง 5-6 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง
วิธีทำ
1. ต้มน้ำจนเดือด เตรียมไว้
2. ใส่ผงโอเลี้ยงลงในถุงกาแฟ นำไปวางลงในเหยือกสแตนเลส เทน้ำเดือดลงไป เขย่าถุงเล็กน้อยให้น้ำทั่วถึงกาแฟ พักทิ้งไว้ 7-10 นาที
3. ใส่น้ำตาลลงในแก้วตามชอบ เทโอเลี้ยงตามลงไปคนผสมให้น้ำตาลทรายละลาย เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งจนเต็ม พร้อมเสิร์ฟ
*********************************************
ยกล้อ
ส่วนผสม (สำหรับ 2-3 เสิร์ฟ)
ผงโอเลี้ยง 5-6 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง
นมข้นจืด
วิธีทำ
1. ต้มน้ำจนเดือด เตรียมไว้
2. ใส่ผงโอเลี้ยงลงในถุงกาแฟ นำไปวางลงในเหยือกสแตนเลส เทน้ำเดือดลงไป เขย่าถุงเล็กน้อยให้น้ำทั่วถึงกาแฟ พักทิ้งไว้ 7-10 นาที
3. ใส่น้ำตาลลงในแก้วตามชอบ เทโอเลี้ยงตามลงไปคนผสมให้น้ำตาลทรายละลาย เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ประมาณ 3/4 แก้ว แล้วเทนมข้นจืดลงไปจนเต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ
*****************************************************
กาแฟโบราณเย็น
ส่วนผสม (สำหรับ 2-3 เสิร์ฟ)
ผงโอเลี้ยง 5-6 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
นมข้นหวาน 9 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด
น้ำแข็ง

วิธีทำ
1. ต้มน้ำจนเดือด เตรียมไว้
2. ใส่ผงโอเลี้ยงลงในถุงกาแฟ นำไปวางลงในเหยือกสแตนเลส เทน้ำเดือดลงไป เขย่าถุงเล็กน้อยให้น้ำทั่วถึงกาแฟ พักทิ้งไว้ 7-10 นาที
3. ใส่น้ำตาลทรายลงในแก้ว ตามด้วยนมข้นหวาน เทโอเลี้ยงใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย เทใส่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็งประมาณ 3/4 แก้ว แล้วเทนมข้นจืดลงไปจนเต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ

****************************************************
ชาร้อนโบราณ
เติมผงชาใส่ถุงชง 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำร้อน ถ่ายเทไปมา ขั้นตอนเหมือนกาแฟ
-เทน้ำชาครึ่งแก้ว
-นมข้น 2 ช้อนชา
-เทนมสดลงไปนับ1-2-3ไม่ต้องคนเช่นกัน เสิร์ฟเลย
****************************************************
ชาดำเย็น
-เทน้ำชาที่อยู่ในถุงชง 1/2 แก้ว
-ใส่น้ำตาลทราย1 ช้อนครึ่ง ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้ละลาย
-ตักน้ำแข็งเต็มแก้ว เทชาที่ชงแล้วใส่แก้วน้ำแข็ง พร้อมเสริฟ
-ถ้าอยากได้ชามะนาวใส่น้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก และเติมเกลือลงไปปลายช้อนเล็กน้อยก่อนใส่น้ำแข็ง
****************************************************
ชาเย็น (ชานม)
-เทน้ำชาที่อยู่ในถุงชง เทใส่แก้ว 1/2 แก้ว
-ใส่นมข้น 2 ช้อนชา
-ใส่น้ำตาลทราย 1 ช้อนครึ่ง (ช้อนโต๊ะ) คนให้เข้ากัน
-ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทนมสดโรย เทน้ำชาที่ชงไว้ แล้วตามด้วยนมสด วนรอบปากแก้วอีกครั้ง
***************************************************
สูตรโอวัลติน ร้อน
-ตักผงโอวัลติน(สูตร 3) 2ช้อนชา
-เติมน้ำร้อน1/2 แก้วชงให้ละลาย -นมข้นหวาน 2 ช้อนชา
-เหยาะนมสดนับ 1 พร้อมเสิร์ฟเลย
***************************************************
สูตรโอวัลตินเย็น
-ตักผงโอวัลติน(สูตร 3) 2ช้อนชา
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำร้อน 1/2 แก้ว คนให้ละลาย
-นมข้นหวาน 2 ช้อนชา คนให้ละลาย
-ตักน้ำแข็งใส่แก้วโรยนมสด ตามด้วยน้ำโอวัลตินที่ชงไว้แล้ว ตามด้วยนมสดวนรอบปากแก้ว...พร้อมเสิร์ฟเลย
***************************************************
สูตรน้ำแดงชง
-น้ำหวานเฮลบลูบอย์ครึ่งแก้
-ใส่น้ำร้อนลงไป 3/4 แก้ว
-ถ้าลูกค้าต้องการหวานๆใส่น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
-ใส่น้ำแข็ง เสริฟ
***************************************************
สูตรโกโก้ร้อน
-ตักผงโกโก้ 1 ช้อนชา
-น้ำตาล 1 ช้อนชา
-ใส่น้ำร้อน1/2 แก้ว คนให้ละลาย
-นมข้นหวาน 1 ช้อนชา
-เหยาะนมสด นับ 1-2-3 เสริฟพร้อมน้ำชาร้อน
***************************************************

สูตรโกโก้เย็น
-ตักผงโกโก้ 1 ช้อนชา
-น้ำตาล 1 ช้อนชาครึ่ง
-ใส่น้ำร้อน ½ แก้วคนให้ละลาย
-นมข้นหวาน 2 ช้อนชาคนให้ละลาย
-ตักน้ำแข็งใส่แก้วโรยนมสด ตามด้วยโกโก้ที่ชงไว้

**********************************************

สูตรน้ำบ๊วยเย็น
-บ๊วย 1 ลูกพร้อมน้ำบ๊วย 3 ช้อนชา
-น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะบี้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
-ใส่น้ำร้อน ½ แก้ว คนให้เข้ากัน
-ตักน้ำแข็งให้เต็มแก้ว เทน้ำบ๊วยที่ชงไว้พร้อมทาน

***********************************************

สูตร นมเย็น เขียว – แดง
-น้ำแดงหรือน้ำเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนครึ่ง
-นมข้นหวาน 2 ช้อนชา
-ใส่น้ำร้อน ½ แก้วคนให้ละลาย
-ตักน้ำแข็งเต็มแก้วโรยนมสด เทน้ำที่ชงไว้ ลงไป

**************************************

การทำไข่ลวก
-ไข่ 2 ใบ ใส่แก้ว อะลูมิเนียมจะดีที่สุดใส่น้ำเดือดจัด ให้ท่วมไข่
-ใช้เวลา 3 นาที
-ตอกไข่ใส่แก้ว เสริฟพร้อม ซอสภูเขา พริกไทยเกลือ
อย่าลวกทิ้งไว้ จะทานค่อยลวก

ข้าวต้มมัด





@@มุมอนุรักษ์ขนมไทย@@
"ข้าวต้มมัด"
...ทำกินเองที่บ้านก็ได้ ทำขายเป็นอาชีพเสริมก็มีรายได้เพิ่ม...รวยๆๆๆ
...
ข้าวต้มผัดพร้อมสูตรวิธีการทำ
เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำด้วยข้าวเหนียวผัดกับกะทิ แล้วนำไปห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าวอ่อน ใส่ไส้กล้วย นำไปนึ่งให้สุก ทางภาคใต้ใช้ข้าวเหนียวกับน้ำกะทิ ห่อด้วยใบพ้อ เรียกห่อต้ม ถ้าห่อด้วยใบมะพร้าว และมัดด้วยเชือกเรียกห่อมัด ขนมแบบเดียวกับข้าวต้มยังพบในประเทศอื่นอีก เช่นในฟิลิปปินส์เรียก อีบอส หรือซูมัน ที่แบ่งย่อยได้หลายชนิดเช่นเดียวกับข้าวต้มมัดของไทย
ข้าวต้มมัดอีกชนิดหนึ่งเรียกข้าวต้มลูกโยนเป็นขนมที่ใช้ในเทศกาลออกพรรษา ห่อด้วยใบพ้อหรือยอดมะพร้าวเป็นรูปรี ข้างในเป็นข้าวเหนียวผสมถั่วดำไม่มีไส้ ผูกเข้าด้วยกันเป็นพวงแล้วนำไปต้ม ส่วนข้าวต้มมัดไต้ เป็นข้าวต้มที่ห่อแล้วมัดให้มีลักษณะเหมือนไต้ที่ใช้จุดไฟ ไส้เป็นถั่วทองโขลกกับรากผักชี กระเทียม พริกไท ใส่หมู มันหมู ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำ น้ำตาลทรายตรุษจีน ห่อด้วยใบตองเป็นแท่ง มัดเป็นเปลาะ 4-5 เปลาะ แล้วนำไปต้ม บางท้องที่ใช้เป็นขนมไหว้เจ้าในเทศกาล
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกข้าวต้มมัดว่าข้าวต้มกล้วย ใช้ข้าวเหนียวดิบมาห่อ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย ใส่ถั่วลิสงต้มสุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงห่อเป็นมัด ใส่ไส้กล้วย เอาไปต้มให้สุก ถ้าเป็นแบบผัด จะผัดข้าวเหนียวกับกะทิก่อนแล้วจึงห่อใส่ไส้กล้วย แล้วต้มให้สุก ถ้าต้องการหวานจะเอามาจิ้มน้ำตาลส่วนทางภาคเหนือนิยมนำข้าวต้มมัดที่สุกแล้วมาหั่นเป็นชิ้นๆ คลุกกับมะพร้าวขูด โรยน้ำตาลทราย เรียก ข้าวต้มหัวหงอก
ข้าวต้มมัดทางภาคใต้ไม่มีไส้ เป็นข้าวเหนียวผัดกับกะทิ ใส่ถั่วขาว ไม่นิยมใช้ถั่วดำ ออกรสเค็มเป็นหลัก ถ้าต้องการให้มีรสหวานจะเอาไปจิ้มน้ำตาล และมีขนมชนิดหนึ่งเรียกข้าวต้มญวน มีลักษณะคล้ายข้าวต้มมัดแต่ห่อใหญ่กว่า ทำให้สุกด้วยการต้ม เมื่อจะรับประทานจะหั่นเป็นชิ้นๆ คลุกกับมะพร้าวขูด เกลือและน้ำตาลทราย
ส่วนผสม
1. ข้าวเหนียวอย่างดี 1 กก. = 5 ถ้วยตวง
2. มะพร้าวขูดขาว 1 กก. = 10 ถ้วยตวง
3. เกลือ 2 ช้อนชา
4. ถั่วดำต้มเปื่อย 1/2 ถ้วยตวง
5. กล้วยน้ำว้าสุก 2 หวี ราว 18 ผล
6. น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง
7. ใบตอง
วิธีทำ
1.เอากากข้าวเหนียวออกให้หมด และเลือกข้าวสารออกด้วย นำไปแช่น้ำค้างคืน แล้วสรงขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.คั้นมะพร้าว ใส่น้ำทีละนิด คั้นให้ได้ 3 ถ้วยตวง แล้วตวงน้ำตาลทราย และเกลือใส่ คนให้ละลาย กรองเอาขี้ผงออก เทลงในกระทะทองเหลือง หรือหม้อเคลือบก็ได้ ตั้งไฟอ่อน ผัดจนข้าวเหนียวแห้ง จึงยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
3.ปอกกล้วยให้หมด แล้วผ่าซีก ใส่ชามไว้ ถ้ากล้วยน้ำว้างอมมาก ต้องลดน้ำตาลทรายออกบ้างสัก 2 ช้อนโต๊ะ
4.เอาใบตองมาฉีกให้กว้างประมาณ 9 นิ้ว ใบตองชั้นในเล็กลงนิดหน่อย เอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาด
5.จับใบตองให้ทแยงมุม ตักข้าวเหนียวใส่ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เอากล้วยใส่ 1 ชิ้น เอาทางด้านผ่าขึ้น ตักข้าวเหนียวใส่อีกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เอาถั่วดำต้มเปื่อยใส่ประมาณ 5-6 เม็ด แล้วเอาชายใบตองทั้ง 2 ด้านทบเข้าหากันพับขนาดกว้าง 1 1/2 นิ้ว จนกระทั่งปิดข้าวเหนียว เอานิ้วชี้หักที่ด้านบนให้เป็นมุม แล้วพับใบตองเข้าหาตัว ทำทั้ง 2 ข้าง (คนที่ไม่เคยทำจะหักมุมได้ไม่สวย แต่ค่อยๆ ทำจะ ค่อยๆ ดีขึ้น ควรพยายามห่อให้แน่น)
6.เมื่อทำครบ 2 ห่อ นำเอาตอกมามัดที่ส่วนหัวและท้ายให้แน่น โดยเอาตอกพันให้รอบห่อข้าวต้มผัด เอานิ้วรัดตรงจุดทบกัน หมุนหลายรอบ แล้วสอดเข้าในตอก พันเข้าหาตัว ส่วนปลายก็ทำเช่นเดียวกัน แต่พันออกจากตัวให้ตอกทับกัน ทำเช่นนี้จนหมด จะได้ 18 คู่ นำไปเรียงในลังถึง เอาด้านข้างหงายขึ้น นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 1 ชม. 30 นาที ก็จะสุก (ก่อนจะห่อควรแบ่งข้าวเหนียวออกเป็น 36 ส่วน เวลาห่อจะได้เท่ากัน)

เครื่องดื่มสมุนไพร





@@มุมอนุรักษ์เครื่องดื่มไทย@@
"น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพร 8 สูตร"
น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพร บรรจุขวดขาย 8 สูตร ทำกินเองที่บ้านก็ได้ ทำง่าย ขายคล่อง กำไรงาม!!!!!!!!!
...
น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม
(1. น้ำเก๊กฮวย)
ส่วนผสม
1. น้ำ 20 ลิตร
2. เก๊กฮวย ตรานก 150 กรัม
3. น้ำตาลทราย 2.75 กิโลกรัม
4. เมล็ดดอกพุด 5 ดอก
5. ใบเตย 4 ใบ
วิธีทำ
1. ต้มน้ำพร้อมใส่ใบเตย จนน้ำเดือด
2. ทุบเมล็ดดอกพุดห่อผ้าขาวบาง ชงให้ได้สีตามต้องการ
3. เมื่อได้สีตามต้องการแล้ว เอาห่อเมล็ดพุดออก
4. เติมน้ำตาล เคี่ยวไปจนเดือด ปิดไฟ
5. ใส่เก๊กฮวย เกลี่ยเบาๆ ให้ทั่ว ปิดฝา เป็นอันเสร็จ
(2. น้ำเฉาก๊วย)
ส่วนผสม
1. น้ำสะอาด 20 ลิตร
2. ใบเตย 5-6 ใบ
3. น้ำตาลทราย 3.5 กิโลกรัม
เฉาก๊วยแข็ง 2 กิโลกรัม
วิธีทำ
1. ขูดเฉาก๊วยเป็นเส้น ใส่ลงในขวดที่นึ่งไว้แล้ว ประมาณ 1 ช้อนส้อม แยกไว้
2. ตั้งน้ำพร้อมใบเตยให้เดือด
3. ใส่น้ำตาลทรายลงไป เคี่ยวให้เดือด
4. กรองและบรรจุลงในขวดที่ใส่เฉาก๊วยไว้แล้ว
หมายเหตุ ต้องใช้เฉาก๊วยแข็ง ซึ่งหาซื้อได้ตามตลาดสด ไม่ใช้เฉาก๊วยนิ่ม เพราะจะเละและไม่ให้สี เมื่อบรรจุน้ำเชื่อมลงไป สีของเฉาก๊วยจะยังไม่ออก รอไว้สักครู่สีจะออกมาเอง
(3. น้ำมะพร้าว)
ส่วนผสม
1. น้ำ 12 ลิตร
2. มะพร้าวอ่อนน้ำหอม 6 ลูก
3. น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม
4. ใบเตย 5 ใบ
5. น้ำหัวเชื้อ (น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อน)
6. สับมะพร้าว แยกน้ำแยกเนื้อไว้
น้ำเชื่อม
1. ตั้งน้ำและใบเตย จนเดือด
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป จนเดือด
3. ใส่น้ำหัวเชื้อ (อุณหภูมิจะลดลง) จับอุณหภูมิให้ได้ 85 องศาเซลเซียส (ใช้เทอร์โมมิเตอร์) เป็นเวลา 3 นาที หรือ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 วินาที ดับไฟ ต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำผลไม้ สี และกลิ่น
4. ยกลง กรอง กรอกใส่ขวด ลดอุณหภูมิโดยการน็อคน้ำเย็น
(4. น้ำลำไย)
ส่วนผสม
1. น้ำสะอาด 20 ลิตร
2. ลำไย 150 กรัม
3. โอทึ้ง 2 ทัพพี (120 กรัม)
4. กรดมะนาว ปลายช้อน
5. ใบเตย 4 ใบ
6. น้ำตาลทราย 2. 75 กิโลกรัม
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำ ใส่ใบเตย ลำไย และกรดมะนาว
2. เคี่ยวจนเดือด ลำไยบานเป็นลูก มีกลิ่นหอม
3. ใส่โอทึ้ง น้ำตาลทราย รอให้เดือด ปิดไฟ
หมายเหตุ ก่อนที่ลำไยจะบาน จะเหมือนกับยุ่ยก่อน อย่าตกใจคิดว่าลำไยเละ รอสักครู่ จะบานเอง
(5. น้ำมะตูม)
ส่วนผสม
1. น้ำ 20 ลิตร
2. มะตูม 300 กรัม
3. น้ำตาลทราย 2.75 กิโลกรัม
วิธีทำ
1. เตรียมน้ำสะอาด 20 ลิตร
2. ย่างมะตูมให้เหลืองหอม ไม่ควรให้เกรียม เพราะจะทำให้มีกลิ่นควันและเหม็นไหม้
3. นำน้ำพร้อมมะตูมขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้มะตูมเปื่อย สังเกตโดยใช้ทัพพีจิกเนื้อมะตูมจะฉีกขาดง่าย
4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จ
(6. น้ำกระเจี๊ยบ)
ส่วนผสม
1. น้ำ 20 ลิตร
2. ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 250 กรัม
3. น้ำตาลทราย 2.3 กิโลกรัม
4. เกลือ 60 กรัม
5. กรดมะนาว 15 กรัม
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำพร้อมดอกกระเจี๊ยบแห้ง
2. ใส่กรดมะนาวและเกลือ
3. เคี่ยวจนดอกกระเจี๊ยบเปื่อยยุ่ย สีซีดลง
4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จ
(7. น้ำฝรั่งพร้อมดื่ม 25% - น้ำฝรั่งพร้อมดื่มเนคต้า)
ส่วนผสม
1. น้ำฝรั่ง 4,000 กรัม (4 กิโลกรัม)
2. น้ำตาลทราย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม)
3. กรดมะนาว 30 กรัม
4. เกลือป่น 60 กรัม
5. เพคติน 20 กรัม
10. น้ำสะอาด 10 ลิตร
วิธีทำ
1. ฆ่าเชื้อขวดและฝา
2. ผสมน้ำตาลกับเพคตินให้เข้ากัน
3. เตรียมน้ำเชื่อม โดยผสมส่วนผสมในข้อ 2 กับกรดมะนาว และน้ำต้มให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง
4. ผสมน้ำฝรั่งกับน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเวลา 3 นาที ยกลง บรรจุขวดที่ลวกฆ่าเชื้อแล้วทำให้เย็นโดยแช่ในน้ำ
5. หากกรองด้วยผ้าขาวบาง เป็นน้ำฝรั่ง 25%
6. หากไม่กรองด้วยผ้าขาวบาง เป็นน้ำฝรั่งเนคต้า (มีอณูเนื้อ)
7. เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส
(8. น้ำเสาวรส-บีทรูท-แครอท)
ส่วนผสม
1. เสาวรส (เฉพาะเนื้อและเมล็ด) 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม)
2. บีทรูท (ปอกเปลือกออก) 1,200 กรัม
3. แครอท (ปอกเปลือกออก) 800 กรัม
4.น้ำตาลทราย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม)
5. กรดมะนาว 30 กรัม
6. เกลือป่น 60 กรัม
7. เพคติน 20 กรัม
8. น้ำสะอาด 10 ลิตร
วิธีทำ
1. นำเสาวรส บีทรูท และแคร์รอต ปั่นในเครื่องปั่นไฟฟ้า หากเครื่องหนืด ให้ใช้น้ำในสูตรช่วยเล็กน้อย กรองโดยใช้ถุงกรองแยกกาก แล้วแยกไว้
2. ผสมน้ำตาลกับเพคตินให้เข้ากัน
3. เตรียมน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลทราย กรดมะนาว เกลือป่น และน้ำต้มให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง
4. ผสมน้ำเสาวรส บีทรูท และแคร์รอต กับน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเวลา 3 นาที ยกลง บรรจุขวดที่ลวกฆ่าเชื้อแล้วทำให้เย็นโดยแช่ในน้ำ
5. เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส
Cr. สูตรอาหาร http://info.matichon.co.th/rich/rich.php…

ขำขัน